วันจันทร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2555

LG Optimus 3D

หลังจากเปิดตัวและเปิดให้จองกันที่งาน Thailand Mobile Expo 2011 Hi-End ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ตอนนี้ LG Optimus 3D ก็มาถึงมือทีมงาน PhoneMove เป็นที่เรียบร้อย กับมือถือแอนดรอยด์ที่เรียกได้ว่า เป็นมือถือ 3D แบบที่สามารถแสดงภาพ 3D ได้โดยไม่ต้องใช้แว่น 3D ครับ 



สำหรับ LG Optimus 3D นี้ LG ก็บอกไว้ว่า มาพร้อมสถาปัตยกรรม tri-dual ซึ่งก็คือ ประกอบด้วย dual จำนวน 3 อย่างนั่นเองครับ อย่างแรกคือ ซีพียู dual-core, ถัดมาคือ dual-channel data transport and memory และสุดท้ายคือ dual-memory chips นั่นเองครับ

ฮาร์ดแวร์

LG Optimus 3D นั้นไม่ได้ใช้ซีพียูแบบ Tegra 2 เหมือนกับ Optimus 2X แล้ว ซึ่งสเปกของ LG Optimus 3D นั้นมีดังต่อไปนี้

  • รองรับ 3G คลื่น 900/1900/2100 MHz
  • Android 2.2 Froyo ครอบด้วย LG 3D UI
  • มีเซนเซอร์ทุกตัวที่มือถือทั่วไปมี
  • ซีพียู dual-core TI OMAP4 ความเร็ว 1GHz, GPU PowerVR SGX 540
  • แรม 512MB
  • ความจุ 8GB
  • หน้าจอ 4.3 นิ้ว ความละเอียด 800x480 และเป็นจอแบบแสดงผล 3D ได้โดยไม่ต้องใช้แว่นตา (glasses-free auto-stereoscopic 3D)
  • มีกล้องด้านหลังจำนวน 2 ตัว ขนาด 5 ล้านพิกเซล, มีออโต้โฟกัส, LED แฟลช, ถ่ายวีดีโอ 2D ได้ 1080p ที่ 30fps ส่วน 3D จะถ่ายได้ 720p ที่ 30fps
  • มีกล้องด้านหน้า 1.3 ล้านพิกเซล สำหรับวีดีโอคอล
  • WiFi, Bluetooth 3.0, microUSB, HDMI, GPS, A-GPS
  • แบตเตอรี่ 1500 mAh

สำหรับสัมผัสแรกที่จับเจ้า LG Optimus 3D นั้น บอกได้เลยว่ามัน หนัก ทีเดียวครับ ตัวบอดี้ของเครื่องนั้นทำด้วยวัสดุที่จับแล้วรู้สึกดีทีเดียว แม้จะเป็นพลาสติกแต่ก็รับรู้ได้ว่าทำออกมาประณีตใช้ได้ครับ แต่ถ้าว่าตามขนาดแล้ว LG Optimus 3D นั้นเป็นมือถือที่มีขนาดใหญ่ครับ บริเวณด้านบนนั้นจะมีปุ่ม power และช่องเสียบแจ๊ค 3.5mm และรูเล็กๆนั้นคือไมค์ตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวนครับ


บริเวณด้านหน้าของเครื่องนั้นจะโลโก้ของ LG อยู่ใต้ลำโพง และด้านขวานั้นเป็นกล้องด้านหน้าขนาด 1.3 ล้านพิกเซล และข้างๆกล้องก็จะมีเซนเซอร์ (proximity กับ ambient light)


ถัดลงก็เป็นหน้าจอขนาด 4.3 นิ้ว แบบแสดงผล 3D อัตโนมัติโดยไม่ต้องใช้แว่น 3D ครับ โดยจอภาพนี้ก็ให้สีที่ค่อนข้างเป็นธรรมชาติ ไม่สีจัดเหมือนฝั่ง Super AMOLED 

ส่วนบริเวณด้านล่างของจอนั้นก็จะเป็น 4 ปุ่มมาตรฐานของ Android ครับ การจัดเรียงปุ่มนั้นก็ไล่จาก menu, home, back และ search ซึ่งก็จะเป็นวิธีเรียงปุ่มโดยปกติของ LG อยู่แล้ว ถ้าใช้ยี่ห้ออื่นมาก่อนอาจมีสับสนในการใช้งานช่วงแรกๆครับ ส่วนรูด้านล่างคือไมค์ตัวหลักสำหรับรับเสียงของเรานั่นเองครับ


ถัดกันที่ด้านข้างบ้างดีกว่าครับ ด้านขวามีปุ่มปรับเพิ่มลดเสียงอยู่ และมีอีกปุ่มพิเศษอยู่บริเวณด้านล่าง นั่นก็คือปุ่ม 3D ครับ โดยเมื่อกดไปแล้วจะสลับโหมด 2D ให้เป็น 3D และถ้ากดค้างไว้ในหน้าจอปกติจะสามารถเรียกเมนูกล้องขึ้นมาได้ครับ และไม่สามารถใช้งานเป็นปุ่มชัตเตอร์ได้ นอกจากนี้ยังสามารถสลับ 3D ไปสู่ 2D ในโหมดเกม 3D ได้ครับ


บริเวณด้านซ้ายของเครื่องประกอบด้วยช่องใส่ microUSB และพอร์ท HDMI ซึ่งทั้งสองช่องนั้นดูเป็นจุดเด่นของรุ่นนี้ทีเดียว เพราะออกแบบมาได้ดีครับ สามารถกันฝุ่นได้เพราะมีฝาปิด


ถัดมาคือบริเวณด้านหลังจะมีกล้องหลักจำนวน 2 ตัว ขนาดตัวละ 5 ล้านพิกเซล และไฟแฟลช LED อยู่กึ่งกลางกล้องทั้งสอง โดยกล้องด้านบนนั้นจะเปิดใช้งานต่อเมื่อเราถ่ายรูป/วีดีโอ 3D ครับ และจะคาดด้วยแถบที่เขียนว่า 3D Stereoscopic ด้านล่างของแถบนี้ก็จะมีลำโพงด้านหลังครับ เสียงไม่ดังมากแต่ไม่แตกครับ

พอแกะฝาด้านหลังออกมาจะเป็นแบบนี้ครับ



ซอฟต์แวร์ และ 3D



LG Optimus 3D มาพร้อม Android 2.2 Froyo ตั้งแต่โรงงานมาเลยครับ ถือว่าเก่าไปสักนิดสำหรับมือถือที่วางขายช่วงนี้ เพราะส่วนใหญ่ไป Android 2.3 Gingerbread ไปหมดแล้ว แต่ LG สัญญาว่าจะอัพเดทเป็น 2.3 ให้ครับ ในช่วงปลายปีนี้ และหน้าตา UI ของ Optimus 3D นั้นก็เป็น UI แบบเดิมๆที่เราเคยเห็นกันใน LG Optimus 2X และ LG Optimus Black ครับ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร 



ตรงจุดนี้หลายๆคนคงจะสงสัยว่า ทำไม LG ไม่ทำให้เมนูเป็น 3D ไปเลยล่ะ? ในเมื่อเป็นมือถือจอ 3 มิติอัตโนมัติแล้ว อันนี้ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ แต่เมนู 3D นั้นจะมีแยกเอาไว้สามารถกดเรียกได้จาก ไอคอน "เมนู 3D (3D Space)" ได้เลยครับ 

เมื่อกดเข้าสู่เมนู 3D นั้นก็จะมีลักษณะดังภาพด้านล่างครับ จะแสดงผลเป็น 3D ทันที โดยเมนูทั้งหมดก็จะมี 3D Camera สำหรับถ่ายภาพ 3D, YouTube 3D เป็นทางลัดสำหรับเข้าสู่ YouTube 3D บนเว็บ, 3D Games เกม 3D ที่แถมให้ในเครื่อง, 3D Gallery คลังภาพและวีดีโอแบบ 3D, 3D Guide เมนูแนะนำการใช้งาน และ 3D Games & Apps แอพและเกม 3D ทั้งหมด

โดยเมื่อเปิดการใช้งาน 3D ทั้งเกม หรือกล้อง 3D บน LG Optimus 3D ต้องยอมรับเลยว่าค่อนข้างสูบแบตเตอรี่พอสมควรเลยทีเดียวครับ กับ content แบบ 3D ทั้งหลายในเครื่องนี้

ลองไปดูวีดีโอทดลองเล่นฟีเจอร์ 3D ของ LG Optimus 3D ถ่ายทำมาให้แล้ว อาจจะไม่ชัดเท่าไหร่นะครับ แต่พอดูได้




กล้อง 

บอกไปตอนต้นแล้วว่า LG Optimus 3D นั้นมีกล้องขนาด 5 ล้านพิกเซล ในโหมด 2D นั้นจะถ่ายรูปได้ 5 ล้านพิกเซล และถ่ายวีดีโอได้ 1080p แต่ถ้าสลับมาใช้โหมด 3D จะสามารถถ่ายรูปได้แค่ 3 ล้านพิกเซลเท่านั้น ส่วนวีดีโอจะถูกลดลงไปเหลือถ่ายได้แค่ 720p ครับ

สำหรับคุณภาพของกล้องที่ติดมากับ LG Optimus 3D นั้น ถือว่าค่อนข้างดีเลยครับ ถ่ายออกมาค่อนข้างประทับใจเลยทีเดียวครับ ลองดูภาพตัวอย่างที่ถ่ายมาดูละกันครับ

ส่วนฟีเจอร์ที่เจ๋งอีกตัวหนึ่งของกล้องบน LG Optimus 3D ก็คือ เมื่อถ่ายภาพแบบ 2D แล้วจะสามารถทำให้ภาพกลายเป็นโหมด 3D ได้ครับ แต่ภาพจะไม่แสดงส่วนลึกมากเหมือนกับถ่ายแบบ 3D

ประสิทธิภาพของเครื่อง และ สรุป




GPS ของ LG Optimus 3D นั้นสามารถจับตำแหน่งได้เร็วดีครับ ไม่มีปัญหาใดๆ ส่วนคุณภาพของเสียงนั้นเสียงใสชัดปกติดีไม่มีปัญหาอะไร ส่วนความสามารถและประสิทธิภาพของตัวสเปกเครื่องโดยรวมนั้นน่าจะมากกว่านี้ครับ ถ้ามีการอัพเดทเป็น Gingerbread นั้นน่าจะทำให้การใช้งานมีประสิทธิภาพสูงกว่านี้ ค่า Quadrant ที่วัดมาจากวีดีโอด้านบนจะเห็นว่าอยู่ที่ 2606 ซึ่งถือว่าสูงใช้ได้ทีเดียวครับ พอฟัดกับเครื่องอื่นๆได้สบายๆ โดยสรุปแล้ว LG Optimus 3D นั้นเหนือกว่า LG Optimus 2X ครับ 

ส่วนอายุการใช้งานของแบตเตอรี่นั้น ถ้าใช้งานปกติทั่วไปนั้นจะอยู่ได้ราวๆ 7-10 ชั่วโมงครับ ก็คือเวลาปกติทั่วไปใช้งานได้วันต่อวัน แต่ถ้าหากเปิดการใช้งาน 3D นั้นจะสูบแบตเตอรี่มากพอดูเลย เวลาใช้งานก็จะลดลงไปครับ แต่โดยรวมแล้วเมื่อมีฟีเจอร์ 3D ติดมาด้วยนั้นทำให้มือถือตัวนี้น่าสนใจทีเดียวครับ ถือไปเล่นแล้วเพื่อนว้าวได้ครับ กับหน้าจอที่แสดงผลแบบ 3D อัตโนมัติโดยไม่ต้องใช้แว่น 3D ของ LG Optimus 3D ครับ


ข้อดี

  • งานประกอบดี
  • กล้องถ่ายสวยใช้ได้
  • จอใหญ่ และเป็นจอแบบที่สามารถดูภาพ 3D ได้โดยไม่ต้องใช้แว่น
  • ถ่ายวีดีโอ 1080p ได้
  • เป็นมือถือที่ดีที่สุดของ LG ตอนนี้
  • ให้ความจุเครื่องมาค่อนข้างเยอะ 8GB เลยทีเดียว

ข้อเสีย
  • ยังคงเป็น Android 2.2 Froyo อยู่
  • การใช้งาน 3D ค่อนข้างสูบแบตเตอรี่

ราคา

LG Optimus 3D จะเริ่มวางจำหน่ายหลังวันที่ 27 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป ในราคา 18,900 บาท ส่วนผู้ที่จองไว้ที่งาน Thailand Mobile Expo 2011 Hi-End จะมีของแถมเพิ่มคือ HDMI cable, เคส, microSD 8GB และรับเครื่องได้ในวันที่ 27 สิงหาคมนี้



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น